กุนเชียง อาการโบราณ กินได้ทุกคน
โครงการพัฒนากลไกการเผ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารของผู้บริโภค ได้เก็บตัวอย่างกุนเชียงหมูจำนวน ๗ ตัวอย่าง จากพื้นที่ปฏิบัติงานโครงการ ๖ จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น มหาสารคาม เชียงใหม่ พะเยา และสงขลา จังหวัดละ ๑ ตัวอย่าง ยกเว้นจังหวัดมหาสารคามที่เก็บทั้งสิ้น ๒ ตัวอย่าง
นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างกุนเชียงไก่จำนวน ๑ ตัวอย่าง จากพื้นที่จังหวัดสตูล รวม ๘ ตัวอย่าง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อทดสอบหาปริมาณการใช้วัตถุเจือปนอาหาร ๒ กลุ่ม คือ สารกันบูด (ได้แก่ กรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก ไนเทรต และไนไทรต์) กับ สีสังเคราะห์
ผลการทดสอบพบว่า
ในกุนเชียง ๑ กิโลกรัมจากจำนวน ๘ ตัวอย่างที่ทดสอบ ปริมาณเฉลี่ยของสารกันบูดชนิด กรดเบนโซอิกเท่ากับ ๑๕.๓ มิลลิกรัม กรดซอร์บิกเท่ากับ ๖๒๐ มิลลิกรัม ไนเทรตและไนไทรต์เท่ากับ ๑๐ มิลลิกรัม อย่างไรก็ตามความเสี่ยงจากการได้รับสารกันบูดสูงเกินมาตรฐานอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ร้อยละ ๑๒.๕ ขณะที่ความเสี่ยงจากากรได้รับสีสังเคราะห์เป็นศูนย์ หรือเท่ากับไม่มีเลย ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวดี
เพื่อลดความเสี่ยงเวลาเลือกซื้อกุนเชียงจะต้องอ่านฉลากให้ดี
โดยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉลากระบุว่าไม่ใช้วัตถุกันเสียและไม่เจือสีสังเคราะห์
นิตยสารฉลาดซื้อแนะนำ
กุนเชียงที่ดี เนื้อกุนเชียงต้องผสมกันดี ทั้งส่วนเนื้อและส่วนที่เป็นมันสี ต้องเป็นธรรมชาติ ดูสม่ำเสมอกันตลอดชิ้น ไม่ซีดหรือคล้ำ และไม่มีกลิ่นอับหรือมีกลิ่นเหม็น
กุนเชียงต้องบรรจุอยู่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด ผนึกเรียบร้อย ไม่มีสิ่งปนเปื้อน ถ้าจะให้ดีควรมีการระบุ ชื่อผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ น้ำหนักสุทธิ วัน เดือน ปี ที่ผลิต หรือหมดอายุ ชื่อผู้ผลิตพร้อมสถานที่ตั้ง กำกับไว้ที่ภาชนะบรรจุกุนเชียง
กินให้อร่อย ต้องดีต่อสุขภาพ และอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
No comments:
Post a Comment